มาต่อกันกับประเภทของ
Social Media นะครับ
4. Media Sharing เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถอัปโหลดรูปหรือวีดีโอเพื่อแบ่งปันให้กับครอบครัว เพื่อนๆ หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งนักการตลาด ณ ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีต้นทุนสูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอลราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็นรูปแบบวีดีโอนำขึ้นเว็ปไซต์ประเภท
Media Sharing อย่าง
Youtube หากความคิดเราเป็นที่ชื่นชอบก็ทำให้เกิดการบอกต่ออย่างแพร่หลาย หรือถ้ากิจการของคุณขายสินค้าที่เน้นดีไซน์สวยงาม ก็อาจจะถ่ายรูปแล้วนำขึ้นไปสู้เว็บไซต์อย่าง
Flickr เพื่อให้ลูกค้าได้ชม สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการชมโรงงาน หรือบรรยากาศในการทำงานได้ เป็นต้น หรืออย่างกรณีของ
Multiply ที่คนไทยนิยมนำรูปภาพที่แสดงฝีมือถ่ายเองมาเป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว ทำให้ผู้ว่าจ้างได้เห็นฝีมือก่อนที่จะทำการจ้างเป็นต้น
|
Media Sharing youtube |
|
|
5. Social News and Bookmarking เป็นเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรือเนื้อหาในอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้เป็นผู้ส่งและเปิดโอกาสให้คะแนนและทำการโหวตให้ เป็นเสมือนมหาชนช่วยกลั่นกรองว่าบทความหรือเนื้อหาใดเป็นที่น่าสนใจที่สุด ในส่วนของ
Social Bookmarking นั้นเป็นการเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำการ Bookmark เนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ โดยไม่ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่สามารถทำผ่านออนไลน์ และเนื้อหาในส่วนที่เราทำ Bookmark ไว้นี้ สามารถที่จะแบ่งปันให้คนอื่นๆได้ด้วย นักการตลาดจะใช้เป็นเครื่องมือในการบอกต่อและสร้างจำนวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรือแคมเปญการตลาดที่ต้องการ
|
Social news and Bookmarking |
|
|
6. Online Forum ถือเป็นรูปแบบของ Social Media ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นสถานที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย ได้ทำการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการแนะนำสินค้า หรือบริการต่างๆ ซึ่งนักการตลาดควรสนใจเนื้อหาที่พูดคุยในฟอรั่มเหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็นคำวิจารย์เกี่ยวกับตัวสิรค้าและบริการของเราซึ่งเราเองสามารถเข้าไปทำความเข้าใจแก้ไขปัญหา ตลอดจนใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และเว็บไซต์ประเภทฟอรั่มอาจเปิดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งในเว็บไซต์เนื้อหาต่างๆ
|
Online Forum | | | |
จากประเภทของ
Social Media ที่กล่าวมาข้างต้น(อันที่จริงมีมากกว่านี้แต่ผมเห็นว่ายังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในไทยจึงไม่ได้กล่าวถึง) จะถูกนักการตลาดนำมาใช้กับสินค้าหรือบริการของตนเอง ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ผมได้ลงรายละเอียดของแต่ละประเภทในโพสต์ต่อๆไปครับ....
2 comments:
อย่างงี้แสดงว่า เว็บพันทิพย์ของไทยจัดอยู่ในประเภท Online Forum รึป่าวคะ
ป.ล. พอดีกำลังหาข้อมูลไปทำรายงาน รบกวนด้วยค่ะ
Post a Comment